วันนี้ Exclusive สุด ๆ เพราะเราชวนนักเขียนมาพูดคุยกันถึง 7 คน พวกเขามารวมตัวกันเพื่อสร้างสรรผลงานรวมเรื่องสั้นเล่มใหม่ล่าสุด ‘คืน-กัก-ตาย’ ขอบอกเลยว่าทั้งคอนเซ็ปต์เล่ม และคอนเซ็ปต์เรื่องสั้นแต่ละเรื่องเรียกได้ว่าอยู่ในเทรนด์ แถมยังหลอนสุด ๆ นักเขียนแต่ละคนมีไอเดียมาจากอะไร เราไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันค่ะ
Sofa publishing : สวัสดีค่ะทุกคน ทักทายนักอ่านชาวโซฟาหน่อยค่า
ภาคินัย : สวัสดีครับ ภาคินัยมาแว้วววว
เจนศิลป์ : สวัสดีนักอ่านชาวโซฟาทุกท่านค่า พบกันอีกแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อกันน้า อิอิ
RabbitRose : สวัสดีแฟน ๆ นักอ่านทุกท่านนะคะ พี่พูน RabbitRose ค่ะ
ชวลักษณ์ : สวัสดีครับ นักอ่านชาวโซฟาที่น่ารักทุกท่าน
ทวิวัฒน์ : สวัสดีครับ (ไหว้ย่อ) ทวิวัฒน์ ครับ ไม่ได้เจอกันนานเลย คิดถึงทุกคนเหมือนเดิมครับ
ธุวัฒธรรพ์ : สวัสดีครับ ธุวัฒธรรพ์ ครับ
ลอยชาย. : สวัสดีครับ ลอยชาย. ครับ ห่างกายกันไปสักพักใหญ่ ๆ แต่ยังมีชีวิตอยู่ครับ
Sofa publishing : อยากให้นักเขียนเล่าถึงช่วงเวลาที่ต้องกักตัวอยู่บ้านเพื่อให้ห่างไกลจากไวรัส Covid-19 มีกิจกรรมอะไรใหม่ ๆ หรือว่าต้องปรับตัวยังไงบ้างคะ ?
ภาคินัย : ใช้ชีวิตปกติเลยครับ เพราะก่อนโควิดก็เป็นคนที่อยู่บ้านเป็นส่วนมากครับเลยไม่ค่อยมีผลกระทบอะไรเท่าไหร่ แต่ก็มีเวลาที่ได้เห็นช่วงเวลาที่บ้านเมืองสงบ ๆ แบบที่ไม่ค่อยได้เห็น นึกถึงหนังซอมบี้เลยครับ
เจนศิลป์ : โดยส่วนตัวได้รับผลกระทบจากการกักตัวค่อนข้างน้อยมากค่ะ เพราะปกติถ้าไม่ได้ออกไปเที่ยวต่างจังหวัด ก็ไม่ได้ออกไปข้างนอกบ่อยอยู่แล้วค่ะ ชอบอยู่บ้าน ทำกับข้าว เขียนงาน ดูซีรีส์มากกว่า บวกกับเป็นยุคสมัยที่สามารถช็อปปิ้งออนไลน์ได้ ก็เลยไม่รู้สึกว่าลำบากอะไร ลำบากกระเป๋าสตางค์อย่างเดียวเลย เรื่องที่ต้องปรับตัวจริงจัง ก็น่าจะเป็นด้านสุขอนามัย การใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ซึ่งมองว่าต่อให้ไม่มีโรคระบาด ก็เป็นสิ่งที่ควรปรับและทำให้เป็นนิสัยค่ะ
RabbitRose : ปกติพี่พูนก็เวิร์กฟรอมโฮมอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องปรับตัวอะไรมากนัก นอกจากเวลาที่จะออกจากบ้านที่ต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและคนในครอบครัว ที่เหลือก็ใช้ชีวิตแบบเดิมค่ะ
ชวลักษณ์ : ด้วยอาชีพแพทย์ เลยไม่ได้กักตัวครับ ต้องไปทำงานทุกวัน อยากจะ work from home กับเขาบ้าง แต่ก็ทำไม่ได้ (ฮา) ส่วนเรื่องของการปรับตัว คือต้องเน้นการล้างมือให้ถูกวิธี การใส่หน้ากากอนามัยที่ต้องเคร่งครัดมากขึ้นครับ สำหรับกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นมาในช่วงนั้น คือต้องออกไปสอนการล้างมือ การเลือก-สวม-ถอด-ทิ้งหน้ากากอนามัย ให้แก่คนในชุมชนต่าง ๆ ครับ
ทวิวัฒน์ : ปกติผมเป็นคนนอนเร็วอยู่แล้วนะ เคอร์ฟิวเลยไม่ค่อยมีผลเท่าไร ส่วนเรื่องการกักตัว โชคดีที่ข้างบ้านเป็น 7-11 อาหารการกินเลยไม่ขาดปาก ที่แย่คือฟิตเนสไม่ได้ไป น้ำหนักเลยเพิ่มกลับคืนเป็นทวีคูณ (เทรนเนอร์ไม่ถูกใจสิ่งนี้) ก็ต้องอาศัยการออกกำลังกายตามมีตามเกิด วิ่งหรือกระโดดเชือกแต่ก็พ่ายแพ้กับกิเลสและโปรโมชั่นของ 7-11 อยู่หลายครั้งครับ
ธุวัฒธรรพ์ : เพราะทำอาชีพตำรวจ ช่วงเคอร์ฟิวที่ผ่านมา ผมจึงต้องออกปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านตรวจเพื่อตรวจสอบและป้องกันปราบปรามคนฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่ได้กักตัวเองอยู่ที่บ้านเหมือนคนอื่นทั่วไป ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค และป้องกันไม่ให้มีเหตุอาชญากรรมในช่วงเวลาดังกล่าวครับ
ลอยชาย. : เรียกว่าไม่ได้มีกิจกรรมใหม่ ๆ เท่าไหร่ครับ แต่มีโอกาสได้กลับไปทำกิจกรรมเดิม ๆ ที่ชอบทำมากกว่า อย่างเช่นการทำอาหาร วาดรูป เล่นดนตรี ที่ส่วนมากจะไม่ค่อยมีเวลาได้ทำในช่วงทำงานปกติครับ
Sofa publishing : โปรเจ็กต์รวมเรื่องสั้นล่าสุดเล่ม คืน-กัก-ตาย ซึ่งเป็นการเติมความหลอนเข้าไปในค่ำคืนที่ต้องกักตัวอยู่ในเคหสถาน นักเขียนเขียนเรื่องสั้นชื่อว่าอะไร เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรคะ ?
ภาคินัย : ชื่อเรื่อง ‘คืนเอาคืน’ ครับ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพนักงานร้านสะดวกซื้อที่ติดอยู่ในร้านในช่วงเวลาเคอร์ฟิวครับ บรรยากาศก็จะหลอนๆนิดนึง และที่สำคัญผีในเรื่องนี้แปลกที่สุดเรื่องหนึ่ง จะเป็นยังไงต้ององอ่านนะครับ
เจนศิลป์ : ของนุ้ยเป็นเรื่อง ‘คืนส่งตัว’ ค่ะ เป็นเรื่้องราวของคนที่มีอาชีพขับรถบรรทุกสินค้า ซึ่งจะต้องจอดพักรถในช่วงเคอร์ฟิวค่ะ คือชื่อเรื่องโรแมนติกมากแหละ ฮ่า แต่เนื้อหาสาระคือระทึกขวัญมาเลย
RabbitRose : เขียนเรื่อง ‘คืนลวงหลอน’ มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายหนุ่มหัวหน้าครอบครัวที่กำลังพยายามฝ่าฟันปัญหาเพื่อประคับประคองครอบครัวของตนให้อยู่รอดในช่วงเวลาที่แสนสาหัสนี้ แต่แล้วเขาก็ต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์อันน่าสยองขวัญขณะที่กำลังพักแรมที่โรงแรมข้างทางแห่งหนึ่ง เนื่องจากไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้ทันก่อนเวลาเคอร์ฟิว สุดท้ายแล้วเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่ ต้องลองไปอ่านดูนะคะ
ชวลักษณ์ : เรื่องสั้นที่ผมนำเสนอคือเรื่อง ‘คืนฝนพรำ’ ครับ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแพทย์ที่ต้องออกชันสูตรพลิกศพอย่างหวาดระแวงในช่วงเวลาเคอร์ฟิวครับ
ทวิวัฒน์ : ผมเขียนเรื่อง ‘คืนหลอกหลอน’ เป็นเรื่องเกี่ยวกับนักเล่นหุ้นที่ชอบการเที่ยวกลางคืน แต่เมื่อมีเคอร์ฟิวทำให้ออกไปเที่ยวไม่ได้ ดังนั้นเจ้าตัวเลยเปิดปาร์ตี้ที่บ้านเสียเลย แต่ปาร์ตี้นั้นกลับนำมาซึ่งเรื่องราวอันน่ากลัวที่เจ้าตัวเผลอทำไว้ในอดีตครับ
ธุวัฒธรรพ์ : - ผมเขียนเรื่องสั้นชื่อ ‘คืนพลัดพราก’ ครับ เป็นเรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องติดตามสามีซึ่งเป็นประสาทศัลยแพทย์ไปพักที่บ้านพักตากอากาศบนเกาะล้าน เพราะสามีได้รับเชิญให้ไปผ่าตัดสมองเคสยากเคสหนึ่ง และระหว่างที่อยู่ลำพังในบ้านหลังนั้น เธอพบว่าห้องทำงานของสามีนั้นถูกปิดล็อกเอาไว้ กระทั่งจะพยายามเปิด เมื่อสามีรู้ก็โกรธเกรี้ยวและแสดงท่าทีราวกับไม่ใช่สามีที่เธอรู้จัก
ประกอบกับได้ยินข่าวว่ามีฆาตกรต่อเนื่องฆ่าปาดคอผู้หญิงอยู่บนเกาะ เธอจึงรู้สึกหวาดระแวงและปรารถนาใคร่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในห้องทำงานของสามีกันแน่...
ลอยชาย. : ‘คืนที่ระลึก’ ครับ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลไม่กี่คน เพราะไม่อยากให้มีจำนวนตัวละครเยอะมากนัก อยากมุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์ และการระลึกถึงอะไรบางอย่างครับ
Sofa publishing : อะไรคือแรงบันดาลใจให้เขียนเรื่องนี้ และใช้เวลาในการเขียนต้นฉบับกี่คืนคะ ?
ภาคินัย : อันที่จริงใช้เวลาสองวันครับ เพราะไม่ยาวมาก
เจนศิลป์ : น่าจะเพราะคนใกล้ตัวมีอาชีพขับรถบรรทุกสินค้าค่ะ แล้วเราก็เคยไปใช้ชีวิตบนรถกับเขาด้วยช่วงหนึ่ง เราก็เห็นรายละเอียดต่าง ๆ ของวิถีชีวิตเขา และคิดว่ามีบางจุดที่เอามาใช้เป็นพล็อตเรื่องนี้ได้ ระยะเวลาการเขียน คืนเดียวเลยค่ะ ยิงยาวถึงเช้า ตามคอนเซ็ปต์เดดไลน์ไม่มา น้ำตาไม่ไหล กว่าจะมีงานส่ง ก็เกือบน้ำตาร่วงเพราะปวดหลัง สังขารไม่เอื้อค่ะ ฮ่า
RabbitRose : แรงบันดาลใจก็มาจากข่าวพิษเศรษฐกิจที่เราอ่านหรือเห็นกันอยู่ในทุกวันนี้ค่ะ อยากให้แฟน ๆ ลองอ่านดู คิดว่าทุกคนน่าจะเข้าถึงและเข้าใจตัวละครเอกได้ไม่ยากเลย ส่วนเวลาที่ใช้เขียนก็สองวันค่ะ เพราะมีการเตรียมแผนงานรวมถึงการวางโครงเรื่องไว้อยู่แล้ว งานจึงเสร็จเร็ว แต่ก็ยังไม่เร็วเท่านักเขียนบางท่านนะคะ
ชวลักษณ์ : แรงบันดาลใจในเรื่องนี้ มาจากครั้งหนึ่งที่ผมต้องขับรถกลางฝนพรำในเวลาตีหนึ่งเพื่อชันสูตรศพครับ และสภาพศพกับสถานที่เกิดเหตุในเรื่องถูกนำมาจากเรื่องจริง (ในบางส่วน) ครับ ส่วนเวลาการเขียนใช้เวลาประมาณสามคืนครับ
ทวิวัฒน์ : ผมลงทุนในตลาดหุ้นมาร่วม 10 ปีแล้วครับ อยากเขียนเรื่องราวที่มีตัวเอกเป็นนักเล่นหุ้นบ้าง พอมีโอกาสก็เลยจัดไปตามอยาก ส่วนเรื่องเวลาเขียนถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 3-4 วันนะครับ
ธุวัฒธรรพ์ : ใช้เวลาเขียน 4 ชั่วโมงถ้วนครับ ที่จริงเรียกว่ารีไรต์ดีกว่าครับ เพราะผมเป็นคนชอบเขียนนิยายหรือเรื่องสั้นเก็บเอาไว้เมื่อคิดพล็อตสนุก ๆ หรืออยากเขียนได้ โดยมีเรื่องนี้ที่ถูกเขียนเอาไว้ก่อนหน้า และเมื่อได้รับการติดต่อจากสำนักพิมพ์ในช่วงเวลากระชั้นชิดก่อนเส้นตาย จึงนำเรื่องนี้มาดัดแปลงให้เข้าธีมโดยใช้เวลา 4 ชั่วโมง
ส่วนแรงบันดาลใจมาจากความอยากเขียนงานแนวรักโรแมนติกแต่แฝงด้วยความลึกลับระทึกขวัญ เพราะส่วนตัวเป็นนักเขียนที่มีงานเขียนแนวรักน้อย จึงอยากพัฒนาฝีมืองานแนวนี้ให้ดีขึ้นครับ หวังว่าคนอ่านจะประทับใจกับ ‘ความรัก’ ในเรื่องนี้
ลอยชาย. : แรงบันดาลใจในเรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นในช่วงที่กักตัวครับ เป็นช่วงที่ว่างไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนเท่าไหร่ เลยมีเวลาได้พูดคุยกับตัวเองค่อนข้างเยอะ ความกลัวความกังวลหลาย ๆ อย่างทำให้เราหวนนึกถึงสิ่งที่เราอาจจะไม่ได้ใส่ใจมานาน จึงเกิดเป็นความคิดว่า ปกติของเรานั้นอาจจะลืมเลือนบางอย่างไป เอาแต่โฟกัสกับอนาคตมากกว่าอดีต ทั้งที่อดีตเองก็เป็นที่มาของทั้งปัจจุบันและอนาคต พอคิดได้อย่างนั้นก็เริ่มเขียนเรื่องนี้ครับ น่าจะใช้เวลาเขียนจริง ๆ ประมาณสัปดาห์หนึ่งครับ
Sofa publishing : ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องกักตัวพร้อมกับนักเขียนในเล่มคืน-กัก-ตายหนึ่งคนเป็นเวลาหนึ่งคืน คุณจะเลือกอยู่กับใคร เพราะอะไรคะ ?
ภาคินัย : ถ้ากับเพื่อน ๆ ขออยู่คนเดียวดีกว่าครับ แต่ละคนร้ายและน่ากลัวว่าผีอีกครับ
เจนศิลป์ : น่าจะเป็นพี่พูน Rabbitrose ค่ะ คือจริง ๆ อยากกักตัวรวมกับทุกคนเลย เพราะอยู่กับทุกคนแล้วสนุกมาก แต่ถ้าเลือกได้คนเดียวก็คงเป็นพี่พูน เพราะว่าเป็นคนที่สามารถนั่งคุยกันได้แบบมาราธอนปากเปียกปากแฉะมาก เชื่อว่าถ้าอยู่ด้วยกัน แม้แต่ผีก็ไม่มีจังหวะหลอกเราง่าย ๆ ค่ะ เพราะเราคุยกันแบบหายใจทางผิวหนัง แทบจะต้องพึ่งถังออกซิเจน หิวคุยพอ ๆ กับหิวข้าวเลย
RabbitRose : เจนศิลป์ ค่ะ คิดว่านางคงเตรียมเสบียงเอาไว้เยอะ ไม่อดตายอย่างแน่นอน
ชวลักษณ์ : จริง ๆ แล้ว อยากกักตัวกับนักเขียนทุกท่านเลยครับ แต่ถ้าให้เลือกแค่คนเดียว ขอเลือกคุณ ลอยชาย.ครับ เพราะไม่เคยเห็นใบหน้าของเขาครับ (ฮา) เหตุผลอีกอย่างก็คือ อยากจะขอแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องภูตผีวิญญาณด้วยครับ
ทวิวัฒน์ : ถ้าให้เลือกนักเขียนในคืนกักตาย ผมเลือก ธุวัฒธรรพ์ ครับ เพราะสไตล์ความชอบน่าจะเหมือน ๆ กันคงได้แลกเปลี่ยนเรื่องที่อีกฝ่ายไม่รู้ตลอดคืนครับ
ธุวัฒธรรพ์ : อยากกักตัวกับ ลอยชาย. ครับ เพราะเป็นคนเดียวที่ผมยังไม่เคยเห็นหน้า อยากรู้ว่าหน้าตาเขาเป็นอย่างไร และจะแอบถ่ายรูปมาโพสต์ให้สาธารณชนรู้ไปพร้อม ๆ กันครับ
ลอยชาย. : พี่แอมป์ ภาคินัย ครับ เพราะพี่เขาดูเป็นผู้ใหญ่มาก น่าจะสามารถเตือนอะไรผมหลาย ๆ อย่างได้ครับ
Sofa publishing : ฝากผลงานได้เลยค่ะ
ภาคินัย : ยังไงฝากเรื่อง คืนเอาคืน ในเล่ม คืนกักตาย ด้วยนะครับ และฝากผลงานเล่มอื่น ๆ ของภาคินัยด้วยนะครับ
เจนศิลป์ : ขอฝากผลงานรวมเรื่องสั้นชุด คืน-กัก-ตาย ไว้ด้วยค่ะ ถือเป็นงานเคาะสนิมของนุ้ยเลย นักเขียนและทีมงานทุกคนตั้งใจมากๆ ค่ะ แล้วก็ขอฝากรวมไปถึงผลงานเล่มอื่น ๆ ของโซฟาด้วยค่ะ รับประกันคุณภาพและความระทึกทุกเล่มเลยค่ะ
RabbitRose : ขอฝากผลงาน คืน-กัก-ตาย รวมถึงเล่มอื่นๆ ของทางสำนักพิมพ์โซฟาไว้ด้วยนะคะ ทุกๆ เล่มผ่านหยาดเหงื่อและแรงงานของนักเขียนรวมถึงกองบรรณาธิการที่ทำทุกอย่างด้วยความใส่ใจ เพื่อให้ได้คุณภาพงานที่ดีที่สุด รับรองว่าแฟนๆ นักอ่านทุกท่านจะไม่ผิดหวังค่ะ
ชวลักษณ์ : สำหรับเรื่อง ‘คืนฝนพรำ’ ในรวมเรื่องสั้น ‘คืน-กัก-ตาย’ เป็นเรื่องสั้นที่ผมตั้งใจเขียนจากแรงบันดาลใจที่ต้องเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุในเวลากลางคืน รวมถึงเขียนจากประสบการณ์เมื่อครั้งที่ต้องออกชันสูตรพลิกศพ โดยรายละเอียดและบรรยากาศจะมีเค้าโครงจากเรื่องจริงราวครึ่งหนึ่ง ดังนั้นท่านผู้อ่านจะได้รับการนำเสนอเรื่องสั้นเรื่องนี้ในรูปแบบเกือบจะเป็นเรียลลิตี้สยองขวัญผ่านมุมมองของแพทย์ครับ ซึ่งรับรองได้ว่า ทั้งหลอน ทั้งฮา ^^
ทวิวัฒน์ : ฝากผลงานรวมเรื่องสั้น คืน-กัก-ตาย เล่มนี้ไว้ด้วยนะครับ มีผลงานสนุก ๆ หลายเรื่องเลย เห็นว่ามีหลายคนอ่านจบแล้วด้วย ยังไงรีบอ่านนะครับเดี๋ยวจะคุยกับคนอื่นเขาไม่รู้เรื่อง
ธุวัฒธรรพ์ : ณ ตอนที่ผมตอบบทสัมภาษณ์อยู่นี้ ผมได้อ่าน คืน-กัก-ตาย จบเล่มแล้ว ในฐานะนักอ่าน ถือว่าเล่มนี้ ‘น่ากลัว’ มาก ในความรู้สึก เพราะทุกเรื่องมีจุดร่วมเดียวกัน คือตัวละครต้องอยู่เพียงลำพัง (หรืออย่างมากเพียงสองคน) ในสถานที่ต่าง ๆ เวลากลางคืน ด้วยบรรยากาศก็ดี ด้วยเรื่องราวอันเป็นปมหลักที่สร้างความระทึกขวัญของแต่ละเรื่องก็ดี ล้วนชวนให้เสียวสันหลังขณะอ่าน หากใครเป็นคอสยองขวัญระทึกขวัญ ไม่อยากให้พลาดรวมเรื่องสั้น คืน-กัก-ตาย ครับ
ลอยชาย. : ช่วงนี้ยังไม่ได้มีผลงานใหม่ ๆ ครับ นอกจากเรื่องสั้นในหนังสือ คืนกักตาย กับกระทู้ในพันทิปที่จะประชาสัมพันธ์ผ่านเพจ ลอยชาย. ตลอด ๆ ครับ
เล่มเดียวได้อ่านผลงานจากนักเขียนฝีมือดีตั้ง 7 เรื่อง คุ้มสุด ๆ ใครยังไม่มี คืน-กัก-ตาย ไว้ในกองดอง ต้องรีบไปหาซื้อแล้วนะคะ ตอนนี้มีวางจำหน่ายที่ร้านหนังสือทั่วไป หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ sofapublishing.com มีส่วนลดพิเศษให้สมาชิกเว็บด้วยจ้า